การใช้ Articles (A, An, The)
ในภาษาอังกฤษนั้น article เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากทีเดียว แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างนักเรียนหลายๆ
คนไม่นำมาใช้ในการพูดภาษาอังกฤษ
อันดับแรกเรามาดูกันก่อนว่า article คืออะไร ในภาษาอังกฤษมี article อยู่ 3 คำคือ ‘a’ ‘an’ ‘the’ โดยที่แต่ละคำนั้นใช้วางหน้า noun
a/an
article ทั้งสองนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม
‘indefinite articles’ เพราะมันไม่ได้ระบุว่าอันไหนที่คุณกำลังพูดถึง
เช่น ‘a table’ อาจจะเป็นโต๊ะตัวใดก็ได้
หรือคุณอาจจะอยากกิน ‘an apple’ โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นลูกใด
วิธีดูว่าต้องใช้ article ตัวใดก็คือถ้า noun ขึ้นต้นด้วยสระ(อักษร ‘a’ ‘e’ ‘i’ ‘o’ หรือ‘u’)
ให้ใช้ ‘an’ แต่ถ้าขึ้นต้นด้วยพยัญชนะให้ใช้ ‘a’
ข้อยกเว้น
มีข้อยกเว้นบางประการสำหรับกฎของการใช้ ‘a’ หน้าพยัญชนะและการใช้ ‘an’ หน้าสระ โดยถ้า noun
ขึ้นต้นด้วย ‘u’ ที่ออกเสียงเหมือนคำว่า
‘you’ กรณีนี้ให้ใช้ ‘a.’ เช่น “I
went to a university” แต่ถ้า noun ขึ้นต้นด้วย ‘h’ ที่ไม่มีการออกเสียง
กรณีนี้ให้ใช้ ‘an.’ เช่น “we have an hour before
the movie starts”
The
‘the’ เป็น ‘definite
article’ เมื่อคุณใช้ article นี้นั่นก็หมายความว่าคุณกำลังพูดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ
เช่น ถ้า “I bought the table” นั่นหมายถึงฉันกำลังพูดถึงโต๊ะตัวที่ฉันซื้อมาเท่านั้น
Article ต่างๆ ใช้วางหน้า noun
แต่สิ่งสำคัญก็คือการรู้ว่าเมื่อไรที่ต้องใช้และเมื่อไรที่ไม่ต้องใช้
เราจะไม่ใช้ article สำหรับกรณีต่อไปนี้
• หน้าชื่อเฉพาะ เช่น Queen
Elizabeth, Steve Jobs หรือ John Smith
• ชื่อประเทศต่างๆ เช่น Italy,
Brazil หรือ Saudi Arabia
• กีฬาประเภทต่างๆ เช่น basketball,
football หรือ soccer
• ภาษาต่างๆ เช่น English,
Spanish หรือ Portuguese
• ชื่อวิชาต่างๆ เช่น Mathematics,
English หรือ Literature
แต่เราจะใช้ article เสมอสำหรับกรณีต่อไปนี้
• ชื่อแม่น้ำ ทะเล มหาสมุทรต่างๆ
เช่น the Atlantic Ocean, the Black Sea และ the
Missouri River
• ทะเลทราย อ่าว ป่า
และแหลมต่างๆ เช่น the Amazon, the Sahara Desert และ the Gulf of Mexico
• อาชีพต่างๆ เช่น an engineer,
a doctor หรือ a lawyer
ที่มา:http://www.englishtown.com/th-th/blog/english-grammar-help-how-to-use-articles/
ที่มา:https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B+a+an+the&biw=1331&bih=622&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwis0eiOtaPJAhWkPKYKHQkCD6sQ_AUIBigB&dpr=0.95#imgrc=ZVPR6tdyW1w5lM%3A
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=3zJQoQLCeNo
ดีมากๆเลย ชอบเนื้อหาที่เข้าใจง่าย
ตอบลบน่าสนใจค่ะ มีคลิปวิดีโอประกอบการสอนด้วย ชอบค่ะ
ตอบลบ